อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมคณะมท.1 ติดตามสถานการณ์หมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
11 เมษายน 2567
อธิบดีกรมการปกครอง ร่วมคณะมท.1 ติดตามสถานการณ์หมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 10 เมษายน 2567 เวลา 09:30 น. ณ จังหวัดเชียงใหม่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์หมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พลตำรวจโท กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พันเอก สุกิจ ภิญโญ เลขานุการผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่า ร่วมลงพื้นที่ ณ กองพลทหารราบที่ 7 ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และมอบสิ่งของให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการควบคุมไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ ชุดสิงห์ไฟ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ชุดเสือไฟ กรมป่าไม้ ชุดเหยี่ยวไฟ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และชุดปฏิบัติการลาดตระเวนและดับไฟป่า กองทัพภาค 3 พร้อมพบปะ ให้กำลังใจ ซักซ้อม และส่งเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจอากาศยานดับไฟป่า
ต่อมาได้ออกเดินทางไปยังศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปข้อมูลสถานการณ์หมอกควัน ไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้กล่าวว่า "ในส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ตลอดจนถึงทุกหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ ต้องพิจารณาตัดสินใจใช้ความเข้มงวดตามมาตรการกฎหมายในการดำเนินคดีกับผู้ที่ยังคิดที่จะเผาป่า เพียงเพราะเพื่อประโยชน์ในการทำพืชไร่ของตนเอง โดยไม่คำนึงว่าทำให้เกิดความเดือดร้อนต่อสุขภาพของประชาชนโดยรวม ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าแก้ปัญหาโดยไม่หยุดยั้ง เพราะความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและสุขภาพอนามัยพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องที่เราต้องช่วยกันอย่างเข้มข้นทุกวิถีทาง“