รองอธิบดีกรมการปกครอง ร่วมประชุมขับเคลื่อนโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 45

วันที่ 5 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายอารีย์ วงศ์อารยะ ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้" เป็นประธานประชุมขับเคลื่อนโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้" รุ่นที่ 45 โดยนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง ได้มอบหมายให้นายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ รองอธิบดีกรมการปกครอง เข้าร่วมการประชุม โดยมีนายวิชัย ศรีขวัญ รองประธานกรรมการบริหารมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” ร้อยตำรวจโท อาทิตย์ บุญญะโสภัต เลขาธิการมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้" นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายสามารถ สุวรรณมณี รองอธิบดีกรมการปกครอง ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัด นายดำรงศักดิ์ แก้วดวง ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง เขตตรวจราชการที่ 7 นายกสมาคมสถาบันปอเนาะจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกสมาคม “สานใจไทย สู่ใจใต้” คณะกรรมการโครงการฯ หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ 44 อำเภอ ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าร่วม

รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้“ เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ทั้งนี้โครงการ “ค่ายพหุวัฒนธรรมสมานฉันท์” กรมการปกครอง มีบทบาทในการเข้ามาสนับสนุนภารกิจสังคมจิตวิทยา และสร้างมวลชนกลุ่มคนรุ่นใหม่ ในฐานะ “ลูกนายอำเภอ” ผ่านการจัดตั้งสมาคมเยาวชนสานใจไทย สู่ใจใต้ เพื่อเข้ามาสนับสนุนการทำงานให้แก่นายอำเภอ และส่วนราชการในอำเภอ รวมถึงมุ่งหมายที่จะสกัดกั้นการบ่มเพาะ ชักจูงแนวคิดหัวรุนแรงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ไม่ให้ฝักใฝ่การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา มุ่งแสวงหาทางออกร่วมกันอย่างสันติ นอกจากนี้เยาวชนที่ผ่านเข้าร่วมโครงการฯ จะเข้ามามีบทบาทกับโครงการที่กรมการปกครองได้ดำเนินการเพื่อต่อยอดการพัฒนาในระดับพื้นที่ร่วมกับสถาบันศึกษาปอเนาะ และภาคีเครือข่ายอื่นๆ เช่น โครงการปอเนาะสานใจฯ สู่การพัฒนา ที่มีนายอำเภอเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนร่วมกับบาบอในสถาบันศึกษาปอเนาะ และเยาวชนสานใจไทย สู่ใจใต้ ให้เกิดการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ อีกทั้งยังสามารถต่อยอดในการพัฒนาพื้นที่ เพื่อสนองปณิธาน “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” และเกิดความสันติสุขอย่างยั่งยืนตลอดไป

สำหรับโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้" ได้บ่มเพาะเยาวชนจากรุ่นสู่รุ่น มาแล้ว จำนวน 44 รุ่น มีเยาวชนที่ผ่านโครงการฯ จำนวน 11,025 คน ซึ่งในปีนี้จะมีการเปิดรับสมัครเยาวชน เพื่อเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 14 - 18 สิงหาคม 2568 นี้ ผ่าน 44 อำเภอเป้าหมายในพื้นที่ จชต. โดยใช้หลักเกณฑ์ต้องเป็นเยาวชนที่มีฐานะยากจน กำพร้า เรียนดี หรือด้อยโอกาสทางการศึกษา ตลอดจน ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีอายุตั้งแต่ 15 ปีบริบูรณ์ ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 19 ปีบริบรูณ์ และเป็นเยาวชนที่อยู่ในระบบการศึกษา หรือนอกระบบการศึกษา ทุกสังกัด