ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ร่วมกับกรมพินิจฯ ทลายผับดังกลางเมืองสุพรรณ ขัดคำสั่งหน.คสช.ที่ 22/2558

4 กันยายน 2560

วันที่ 10 มิ.ย. 2560 เวลา 00.30 น. ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายพิริยะ ฉันทดิลก ผอ.สำนักการสอบสวนและนิติการ นายกองเอกวรยุทธ เนาวรัตน์ ผอ.สำนักอำนวยการกองอาสารักษาดินแดน และนายธีรชัย ทศรฐ ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นำโดย นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองอธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน
ร่วมกันดำเนินการตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ 22/2558 เข้าตรวจสอบจับกุมสถานบริการ "ดิสคัฟเวอร์รี่" ซึ่งเป็นผับชื่อดังกลางเมืองสุพรรณบุรี

ซึ่งขณะเข้าตรวจสอบพบว่ากำลังเปิดเพลงเสียงดัง นักท่องเที่ยวกว่า 300 คน กำลังดื่มเต้นอย่างสนุกสนาน
เมื่อควบคุมสถานการณ์ให้อยู่ในความสงบดีแล้ว จึงทำการคัดกรองนักเที่ยว ตรวจบัตรประจำตัวประชาชน คัดแยกกลุ่มอายุผู้เที่ยวและทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด
นอกจากนี้ ได้ทำการตรวจค้นตัวนักเที่ยว โดยเฉพาะผู้หญิงที่อาจมีการซุกซ่อนยาเสพติดตามส่วนต่างๆของร่างกาย

ผลการตรวจสอบ พบเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ จำนวน 66 คน ในจำนวนนี้ (1) เป็นเด็กอายุ 18 - 20 ปี จำนวน 42 คน (2) อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 24 คน (เด็กอายุต่ำที่สุด 15 ปี) 
พบผู้ไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 84 คน 
ตรวจพบสารเสพติดในร่างกาย จำนวน 11 คน และพบยาเสพติด วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท เช่น ยาไอซ์ ยาเคตามีน ตกอยู่ตามพื้น และหน้าห้องน้ำในผับ อีกจำนวนหนึ่ง

เบื้องต้นตั้งข้อหาแก่ผู้รับอนุญาตตั้งสถานบริการ ดังนี้
1.ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ เข้าไปในสถานบริการระหว่างเวลาทำการ
2.ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์ ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
3.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย ด้วยการจัดโปรโมชั่น ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
4.โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม 
5.ยุยงส่งเสริมหรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546
ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง หน.คสช.ที่ 22/2558

ทั้งนี้ อำเภอเมืองสุพรรณบุรีได้เสนอผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรีให้มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตตั้งสถานบริการดิสคัฟเวอร์รี่ และสั่งปิดเป็นเวลา 5 ปี

ที่มา : กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรมการปกครอง